จีไอที ลุยต่างจังหวัด เฟ้นหาอัญมณีท้องถิ่น ลุยพัฒนา ทำการตลาดส่งออกนอก

2025-05-12 IDOPRESS

จีไอที ลุยต่างจังหวัด เฟ้นหาเครื่องประดับ อัญมณีในท้องถิ่น ลุยพัฒนา ทำการตลาดส่งออกนอก ประเดิมโครงการ มาเหนือ คัด 22 แบรนด์โกอินเตอร์

🔊 ฟังข่าว

⏸️ หยุดชั่วคราว

🔄 เริ่มใหม่

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ จีไอที เปิดเผยว่า ในปี 68 จีไอทีจัดโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องประดับไทยในภูมิภาค หรือโครงการมาเหนือ เพื่อตามค้นหาเครื่องประดับท้องถิ่น ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ในพื้นที่ภาคเหนือ และเมื่อได้ผู้ประกอบการแล้ว ก็จะเข้าไปช่วยอบรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีอัตลักษณ์ จนสามารถผลิตเปิดตัวออกจำหน่ายสู่ตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“ในปี 68 นี้ จีไอทีตั้งเป้าเข้าไปช่วยพัฒนาเครื่องประดับท้องถิ่นหลายรูปแบบ อาทิ เครื่องเงิน ให้ได้ 22 แบรนด์ ซึ่งทั้ง 22 แบรนด์นี้จะถูกคัดเลือกโดยคณะกรรมการ เพื่อนำไปต่อยอดชิ้นงานต้นแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ และนำไปผลิตเป็นชิ้นงานจริง จากนั้นจะช่วยเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจและเปิดตัวออกสู่ตลาด ทั้งการนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับของ จีไอที และนำไปจัดแสดงในงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี ที่ จ.จันทบุรี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือก 10 แบรนด์ จะได้ออกงานแสดงสินค้าจิวเวลรีและเครื่องประดับ หรือ บางกอก เจมส์ ในเดือน ก.ย.2568 อีกด้วย”

นายสุเมธกล่าวว่า จีไอทียังได้ลงพื้นที่ไป จ.เชียงใหม่ เพื่อจัดอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการให้ความรู้แก่ช่างฝีมือ และผู้ประกอบการ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ ไขรหัสความลับอัญมณีและโลหะมีค่า จากแหล่งกำเนิดสู่ตลาดโลก ความรู้ที่นักออกแบบและผู้ประกอบการเครื่องประดับ ต้องรู้ ศิลปะและอัตลักษณ์ในเครื่องประดับระดับสากล การสร้างแนวคิดการออกแบบเครื่องประดับที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น วัสดุอัจฉริยะกับเครื่องประดับแห่งอนาคต เทรนด์วัสดุใหม่และเทคนิคการสร้างสรรค์ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม พลิกเกมการตลาดเครื่องประดับในยุคดิจิทัล กลยุทธ์สร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายด้วยเอไอ

“จีไอทีมั่นใจว่า โครงการมาเหนือ จะช่วยผลักดันเครื่องประดับท้องถิ่น ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวเข้าสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น เพราะหลังเข้าไปช่วยพัฒนา จะทำให้เครื่องประดับมีความแปลกใหม่ น่าสนใจ สวมใส่ได้ง่าย และหลากหลายโอกาส แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นท้องถิ่น เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า และยังจะช่วยผลักดันต่อยอดให้ชุมชน หรือแหล่งผลิตเครื่องประดับ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้เข้ามาเยี่ยมชม ก่อเกิดรายได้ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้เพิ่มขึ้น”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 ไทยฟอร์จูนรายสัปดาห์    ติดต่อเรา SiteMap